72 ภาคีเครือข่ายภาคประชาชนเน้นย้ำรัฐบาลต้องทำตามสัญญาหยุดนำเข้าเศษพลาสติก

*Photo Credit: nationthailand.com

ในวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา องค์กรภาคประชาชนกว่า 72 องค์กรนำโดยมูลนิธิบูรณะนิเวศได้ออกแถลงการณ์ “คัดค้านการผ่อนปรนนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศ” ด้วยเหตุผลว่าหากนำเข้ามาจะกระทบต่อราคาซื้อขายขยะในประเทศไทย กระทบต่อรายได้ของผู้เก็บของเก่าและร้านรับซื้อของเก่า อีกทั้งยังหวั่นกระทบต่อสภาพแวดล้อม รวมไปถึงการขัดแย้งต่อนโยบายการขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน BCG หรือ ‘Bio-Circular-Green’ Economy

การคัดค้านนี้เริ่มจากการที่รัฐบาลไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาที่จะยกเลิกการนำเข้าตามที่ได้ประกาศไว้ในตอนแรกหลังจากการแต่งตั้ง “คณะอนุกรรมการเพื่อบูรณาการการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษขยะพลาสติกที่นำเข้าจากต่างประเทศอย่างเป็นระบบ” เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2561 โดยประกาศ “ห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ 100 เปอร์เซ็น” และ “ยกเลิกการนำเข้าเศษพลาสติกภายใน 2 ปี” 

โดยมีรายละเอียดปริมาณที่นำเข้าได้ดังนี้คือ ปี 2562 นำเข้าได้ไม่เกิน 40,000 ตัน ปี 2653 นำเข้าได้ตามโควต้าปี 2562 แต่ห้ามนำเข้าเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2563 เป็นต้นไป แต่ข้อมูลการนำเข้าเศษพลาสติกยังคงพบว่ามีการนำเข้าอยู่ประมาณ 323,167 ตันในปี 2562 และอีกกว่า 96,724 ตันในปี 2563 

ทำให้องค์กรภาคประชาชนยื่นคำร้องต่อคณะอนุกรรมการให้รักษาคำมั่นสัญญาที่จะยกเลิกการนำเข้าตามประกาศในปี 2561 แต่คณะอนุกรรมการ #กลับมติ เมื่อต้นปี 2564 โดยหันไปยินยอมตามแรงกดดันของกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมนำเข้าเศษพลาสติกและอุตสาหกรรมรีไซเคิล ที่ไม่ต้องการยกเลิกการนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศภายในปี 2563 และได้ขยายการนำเข้าไปถึงปี 2569

และด้วยกฎหมาย #รีไซเคิลเพื่อส่งออก คนละฉบับที่ทำให้ประเทศไทยทุกพื้นที่กลายเป็นเขตปลอดอากรที่จูงใจให้นักลงทุนเข้ามาทำธุรกิจในไทยจึงเกิดช่องโหว่ที่ทำให้มีการลักลอบนำเข้าพลาสติกอยู่ตลอดโดยไม่สามารถตรวจสอบได้ทำให้เกิดกระแสการคัดค้านและแถลงการณ์อีกครั้งในวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา 

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสาเหตุการนำเข้าขยะคือ ขยะพลาสติกในประเทศนั้นมีการปนเปื้อนมากมายเช่นการทิ้งรวมกับขยะอื่น ๆ ตั้งแต่ต้นทำให้พลาสติกที่จะนำไปรีไซเคิลได้จริงนั้นมีน้อย การนำเข้าขยะที่สะอาดกว่าจึงคุ้มค่ามากกว่าขยะในประเทศในมุมมองของโรงงานรีไซเคิล ดังนั้นการร่วมมือกันคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นของผู้ใช้จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้การคัดค้านนำเข้าขยะครั้งนี้สำเร็จได้

จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา นายวรารุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้ออกมาเน้นย้ำถึงนโยบายส่งเสริมการใช้เศษพลาสติกในประเทศและจะผลักดันการใช้ประโยชน์เศษพลาสติกให้ได้ภายใน 5 ปี โดยจะกำหนดโควต้าให้โรงงานนำเข้าได้ไม่เกิดร้อยละ 50 ของกำลังการผลิตหรือไม่เกิน 250,000 ตัน ในปี 2564 และจะลดลงปีละ 20% โดยในปี 2565 นำเข้าไม่เกิน 200,00 ตัน ปี 2566 ไม่เกิน 150,00 ตัน ปี 2567 ไม่เกิน 100,000 ตันปี 2568 ไม่เกิน 50,000 ตัน และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป ห้ามนำเข้าเศษพลาสติก

แต่อย่างไรก็ตามเครือข่ายภาคประชาชนไม่อาจนิ่งนอนใจและไว้วางใจได้อีกเพราะมติล่าสุดยังคงให้นำเข้าขยะไปจนถึงปี 2569 หากปัญหาการนำเข้าขยะนี้ไม่ได้รับการแก้ไขหรือไม่มีกฎหมายออกมาอย่างเป็นรูปธรรม จะเกิดปัญหาที่ทำลายสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยอีกมากมายไม่ว่าจะมลพิษหรือมลภาวะต่าง ๆ เพราะประเทศไทยไม่ใช่ถังขยะของโลก Trash Lucky จึงขอร่วมคัดค้านการนำเข้าขยะพลาสติก

ทุกท่านสามารถร่วมกันลงชื่อเพื่อคัดค้านการนำเข้าขยะพลาสติกมาในประเทศไทยได้ที่ change.org/p/คัดค้านนำเข้าเศษพลาสติก

ที่มา
Facebook
BBC Thai
Manager Online
Nation Thailand

แชร์ข้อความนี้

Trash Lucky

เพียงคุณแยกขยะรีไซเคิลแล้วบริจาคให้เรา รางวัลทองคำอาจเป็นของคุณ! รับสิทธิ์ลุ้นโชคตามปริมาณขยะรีไซเคิลของคุณ ลุ้นรางวัลทองคำและอื่น ๆ ทุกเดือน

Recent Posts

Facebook

แยก แลก ลุ้น

เพียงคุณแยกขยะรีไซเคิลแล้วบริจาคให้เรา รางวัลทองคำอาจเป็นของคุณ! รับสิทธิ์ลุ้นโชคตามปริมาณขยะรีไซเคิลของคุณ ลุ้นรางวัลทองคำและอื่น ๆ ทุกเดือน